ปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอด การตัดหนังหน้าท้องช่วยได้อย่างไร?

ปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอด การตัดหนังหน้าท้องช่วยได้อย่างไร?

ปัญหาหน้าท้องหย่อนย้วย หุ่นไม่เฟิร์มกระชับ หน้าท้องมีรอยแตกลาย นับเป็นหนึ่งปัญหาหลักที่พบได้บ่อยในกลุ่มคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์ทั้งการรับประทานอาหารมากขึ้น การยืดขยายตัวของกล้ามเนื้อหน้าท้องและหนังหน้าท้องไปตามช่วงอายุครรภ์ ส่งผลให้หน้าท้องย้วย หย่อนยานดูไม่กระชับถึงแม้จะเข้าสู่ระยะหลังของการคลอดแล้วก็ตามที อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีวิธีแก้ไขปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอดให้ดีขึ้นได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำกายภาพบำบัด การใช้นวัตกรรมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและการตัดหนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนย้วย มีรอยแตกลายให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างถาวร การตัดหน้าท้อง ดีจริงไหม? ช่วยแก้ปัญหาหน้าท้องย้วยหลังคลอดได้อย่างไร บทความนี้รวมทุกข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากคุณแม่ทุกท่านกันครับ

ปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอด เกิดจากสาเหตุใด

ปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอด เกิดจากสาเหตุใด

ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยหลังคลอดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์และการคลอดบุตร ดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์ เช่น ฮอร์โมนโปรเจสเตโรนและเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์รวมถึงช่วยปรับเปลี่ยนสรีระ หน้าท้อง อุ้งเชิงกรานของคุณแม่ให้เหมาะสมกับการตั้งครรภ์และเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด นอกจากนี้อาจเกิดจากร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด (ฮอร์โมนคอร์ติซอล) ในระหว่างการตั้งครรภ์ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสะสมเซลล์ไขมันที่บริเวณหน้าท้องมากขึ้น 
  • การขยายตัวของมดลูกและหน้าท้อง ในระหว่างการตั้งครรภ์มดลูกของคุณแม่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ส่งผลให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อที่บริเวณหน้าท้องถูกยืดออกจนเสียสภาพและขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอดถึงแม้ว่ามดลูกจะหดกลับเข้าที่ไปแล้ว โดยระดับความรุนแรงของปัญหาจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับจำนวนและน้ำหนักของทารกในครรภ์
  • ไขมันสะสมในระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ส่วนใหญ่รับประทานอาหารมากขึ้นในช่วงที่กำลังตั้งท้องเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายรวมถึงการทานอาหารบำรุงเพื่อทารกในครรภ์  ส่งผลให้มีปริมาณไขมันสะสมตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณหน้าท้อง รอบเอว จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าท้องหย่อนย้วยหลังคลอด
  • ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก (Diastasis Recti) ภาวะนี้เกิดจากเยื่อคอลลาเจนที่เรียกว่า Linea alba ซึ่งทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อหน้าท้อง (ซิกแพค) ซีกซ้ายและขวาเข้าด้วยกัน เกิดการเสื่อมสภาพระหว่างการตั้งครรภ์ ส่งผลให้เกิดช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อยและดูโป่งออกอย่างชัดเจน

วิธีลดหน้าท้องหลังคลอด มีอะไรบ้าง

คุณแม่ที่ประสบปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย หน้าท้องป่อง พุงไม่ยุบหลังคลอด สามารถจัดการปัญหาให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีเหล่านี้

  • การออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ในระยะแรกหลังคลอดคุณแม่สามารถออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ ฝึกโยคะหรือพิลาทิส และหลังจากที่ร่างกายฟื้นตัวดีแล้วจึงเปลี่ยนมาออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้องควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณแคลอรีที่ได้รับต่อวันให้เหมาะสม เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่และดื่มน้ำมากๆ
  • การใส่ชุดกระชับหน้าท้องหรือแถบรัดหน้าท้อง เพื่อช่วยกระชับให้กล้ามเนื้อหน้าท้องรวมถึงมดลูกหดตัวเร็วขึ้นหลังคลอด
  • การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือพลังงานคลื่นวิทยุความถี่เข้มข้น (RF) วิธีนี้ช่วยกระตุ้นการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหน้าท้อง พร้อมทั้งช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามวิธีการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอดในระดับไม่รุนแรง และต้องการฟื้นฟูผิวให้กระชับมากขึ้น
  • การตัดหนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อตัดแต่งผิวหนังหน้าท้องและไขมันส่วนเกินในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมทั้งสามารถเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้องในกรณีที่มีภาวะหย่อนคล้อยอย่างรุนแรงหลังคลอด เพื่อช่วยให้หน้าท้องกลับมากระชับและได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

การตัดหนังหน้าท้อง คืออะไร ช่วยลดปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอดได้จริงไหม

การตัดหนังหน้าท้อง คืออะไร ช่วยลดปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอดได้จริงไหม

การตัดหนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) เป็นการศัลยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องอย่างตรงจุด ช่วยให้หน้าท้องดูกระชับ รอบเอวเล็กลงอย่างชัดเจนและคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักตัวลงมากๆ หรือคุณแม่หลังคลอด ซึ่งมักประสบปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องยืดตัวและแยกออกจนไม่สามารถกลับมากระชับได้ด้วยวิธีปกติ โดยสามารถสรุปข้อดีของการตัดหนังหน้าท้องเพื่อช่วยลดปัญหาหน้าท้องหย่อนหลังคลอดได้ดังนี้

  • การตัดหนังหน้าท้องช่วยกำจัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินได้พร้อมๆ กัน โดยแพทย์จะตัดแต่งเอาผิวหนังและไขมันส่วนเกินที่หน้าท้องออกไปพร้อมๆ กันในครั้งเดียว จึงช่วยให้หน้าท้องดูกระชับขึ้น รอบเอวเล็กลงได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน 
  • ช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง นอกจากการตัดแต่งเอาผิวหนังและไขมันส่วนเกินออกแพทย์ยังสามารถเย็บเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้องได้อีกด้วย ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่บริเวณแกนกลางลำตัวทำหน้าที่โอบอุ้มหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาพุงป่อง หน้าท้องยื่นและยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดหลังให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
  • ลดรอยแตกลาย โดยเฉพาะรอยแตกลายหลังคลอดที่บริเวณท้องล่างหรือใกล้กับสะดือซึ่งแพทย์จะผ่าตัดเพื่อนำผิวหนังและไขมันส่วนเกินในบริเวณดังกล่าวออกจึงมีส่วนช่วยลดรอยแตกลายหลังคลอดได้บางส่วน

ใครที่เหมาะกับการตัดหนังหน้าท้องหลังคลอด

  • คุณแม่ที่มีผิวหนังหน้าท้องและไขมันส่วนเกินในปริมาณมาก 
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวคงที่และไม่มีแผนที่จะลดน้ำหนักตัวมากๆ ในภายหลัง
  • ผู้ที่ไม่มีแผนจะมีบุตรในอนาคต เนื่องจากหากมีการตั้งครรภ์ใหม่ผิวหนังหน้าท้องและกล้ามเนื้อที่เคยเย็บยึดเข้ามาชิดกันจะเสียสภาพอีกครั้งทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดใหม่
  • ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ ไม่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการผ่าตัดใหญ่ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดและระบบทางเดินหายใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในระหว่างขั้นตอนการผ่าตัดหรือการฟื้นตัวในภายหลัง
  • ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ตามพื้นฐานความเป็นจริง เนื่องจากการตัดหนังหน้าท้องหลังคลอดช่วยเรื่องการยกกระชับและปรับสัดส่วนเฉพาะจุดเป็นหลัก ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงรูปร่างโดยรวมและไม่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักตัว

เนื่องจากการผ่าตัดหนังหน้าท้องหลังคลอดเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้ยาสลบร่วมด้วยและต้องมีเวลาพักฟื้นภายหลังการรักษา ผู้เข้ารับบริการควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายโดยละเอียดและวางแผนขั้นตอนการผ่าตัดได้อย่างเหมาะสม

วิธีการตัดหนังหน้าท้องที่เหมาะกับคุณแม่หลังคลอด

การตัดหนังหน้าท้องมีอยู่ด้วยกันหลายเทคนิค โดยมีวิธีตัดหนังหน้าท้องที่เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด ดังนี้

  • การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Belt Lipectomy หรือการผ่าตัดรอบเอว เป็นวิธีตัดหนังหน้าท้องที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนและมีไขมันส่วนเกินที่บริเวณหน้าท้อง สะโพกและด้านหลังของลำตัวมากเป็นพิเศษ โดยแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลยาวรอบลำตัวส่วนล่างทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังเพื่อตัดแต่งเอาผิวหนังและไขมันส่วนเกินออกโดยรอบลำตัว พร้อมทั้งเย็บเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและย้ายสะดือไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม
  • การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบเต็ม (Full Abdominoplasty, Full Tummy Tuck) โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเหนือหัวหน่าวยาวตลอดแนวเพื่อตัดหน้าท้องส่วนล่างและช่วงเหนือสะดือออกทั้งหมดร่วมกับการเจาะย้ายตำแหน่งของสะดือใหม่ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยและมีไขมันหน้าท้องในระดับปานกลาง
  • การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบบางส่วน (Mini Abdominoplasty) เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยหรือไขมันสะสมเฉพาะบริเวณหน้าท้องส่วนล่างใต้สะดือ และไม่มีการปรับย้ายตำแหน่งของสะดือ ข้อดีของวิธีนี้คือ รอยแผลมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยและฟื้นตัวได้ไว

วิธีเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดหนังหน้าท้อง

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยต่อตัวผู้เข้ารับบริการเอง ควรเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง ดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เข้ารับบริการควรเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนการผ่าตัดหนังหน้าท้อง ผลลัพธ์ที่คาดหวังและความเสี่ยงต่างๆ ทั้งนี้ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพ ประวัติการผ่าตัดรักษารวมถึงการแพ้ยา แพ้อาหารให้แพทย์ทราบโดยละเอียด
  • ตรวจสุขภาพทั่วไปเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด เช่น การตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจเอกซเรย์ทรวงอก เป็นต้น
  • งดใช้ยา วิตามินหรืออาหารเสริมต่างๆ ที่มีผลต่อการแข็งตัวก่อนเลือดก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน เพื่อป้องกันภาวะเลือดหยุดไหลยากหลังการผ่าตัด
  • งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดหนังหน้าท้อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • งดอาหารและน้ำตามคำสั่งแพทย์ โดยส่วนใหญ่จะต้องงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยในระหว่างขั้นตอนการใช้ยาสลบและการผ่าตัด
  • เตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัด เลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวมๆ อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายมาให้ดีเนื่องจากหลังการผ่าตัดหนังหน้าท้องจะต้องระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน
  • วางแผนการพักฟื้นและลางานให้พร้อม การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานหลายสัปดาห์ จึงควรเตรียมความพร้อมเรื่องการลางานหรือผู้ช่วยดูแลบุตรในช่วงเวลาที่ต้องพักฟื้น

วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดหนังหน้าท้องหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รอยแผลสมานตัวไวและฟื้นตัวได้ไวขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยมีวิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง ดังนี้

  • ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังตัดหนังหน้าท้อง ควรนอนหรือยืนตัวงอเล็กน้อย ไม่ยืดตัวจนสุดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดตึงแผลผ่าตัด 
  • พยายามหลีกเลี่ยงการไอ จาม หัวเราะหรือออกแรงเบ่งเพื่อลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
  • หมั่นสวมชุดรัดหน้าท้องตามคำสั่งแพทย์ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ลดบวมและช่วยให้หน้าท้องเข้ารูปได้ไวขึ้น 
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนักและกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะๆ ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้รอยแผลฉีกขาดหรือทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องได้รับบาดเจ็บ
  • งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3-4 สัปดาห์
  • ดูแลแผลให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ ควรเช็ดทำความสะอาดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและซับแผลให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้รอยแผลเกิดการอักเสบติดเชื้อ 
  • เข้าพบแพทย์ตามกำหนดนัด เพื่อตรวจเช็กรอยแผลและประเมินการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด หากสังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณรอยแผลผ่าตัดควรเข้าพบแพทย์เจ้าของเคสทันที

สรุป

ปัญหาหน้าท้องหย่อน พุงไม่ยุบหลังคลอดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ปริมาณไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของมดลูกและภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก ซึ่งสามารถจัดการให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) เพื่อกำจัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินไปพร้อมๆ กับการฟื้นฟูความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง เริ่มจากการประเมินระดับความรุนแรงของปัญหาและเลือกใช้วิธีผ่าตัดรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยกระชับหน้าท้องให้มีขนาดเล็กลง ลดขนาดรอบเอวและรอยแตกลาย ช่วยให้คุณแม่หลังคลอดกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง

ครั้งแรกของแพลตฟอร์มที่เผยแพร่ความรู้ด้านศัลยกรรมความงาม อยู่ภายใต้การดูแลโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งและทีมแพทย์เฉพาะทาง