ปัจจุบันการทำตาสองชั้นกลายเป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ เพราะการปรับแต่งชั้นตาให้เรียวสวยคมชัด เส้นชั้นตาอยู่ในระดับที่เหมาะสมนั้นช่วยเสริมให้ดวงตากลมมน ใบหน้าโดยรวมดูมีเสน่ห์น่ามอง นอกจากนี้การทำตาสองชั้นยังช่วยแก้ไขปัญหาชั้นตาต่างๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นปัญหาตาตี่ ตาชั้นเดียว ตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ตาปรือ ตาลึกโหล หางตาตก ฯลฯ ด้วยเทคนิคการทำตาสองชั้นที่มีให้เลือกใช้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการเย็บแบบเป็นจุด การกรีดแผลสั้น การกรีดแผลยาว เทคนิคไร้แผลเป็น เทคนิคแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ยกหางตา ยกหางหงส์ ฯลฯ ซึ่งรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้อาจทำให้หลายคนเกิดความสับสนได้ว่าปัญหาชั้นตาที่ตนเจออยู่ควรต้องปรับแก้แบบไหน หรือควรเลือกทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคไหนดี? จึงจะได้ชั้นตาที่เนียนสวยเป็นธรรมชาติได้อย่างใจหวังเพราะมีคนไข้จำนวนไม่น้อยเลยครับที่หลังจากทำตาสองชั้นมาแล้วแต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ ชั้นตาดูบวมไม่หาย ลืมตาได้ไม่เต็มที่ มีปัญหาตาปรือ ตาลึกโหล จนต้องกลับมาผ่าตัดแก้ไขตาสองชั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
เพื่อให้คนไข้ที่ต้องการทำตาสองชั้นมีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจ บทความนี้หมอได้รวบรวมเอาทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนการทำตาสองชั้นหรือแก้ตาสองชั้น เพื่อช่วยสร้างผลลัพธ์หลังการรักษาที่สวยงาม คุ้มค่าและมีความปลอดภัยมากที่สุดครับ
โครงสร้างเปลือกตา
การจะเข้าใจเรื่องการทำตาสองชั้นได้ดีหมออยากให้ลองทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างเบื้องต้นของเปลือกตากันก่อนสักเล็กน้อยครับ อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยากไปเสียหน่อยแต่หากคนไข้ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างเปลือกตาไว้ด้วยจะช่วยให้การตัดสินใจทำตาสองชั้นของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ
ในเรื่องโครงสร้างของเปลือกตาที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำตาสองชั้นจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่

- กล้ามเนื้อที่ใช้เปิดตาหรือ กล้ามเนื้อ levator palpebrae superioris
- กระดูกอ่อนเปลือกตาหรือ Tarsal plate
- หนังตา
หลักการสำคัญของการเกิดชั้นตา คือ เมื่อเราออกแรงลืมตากล้ามเนื้อเปิดตาที่ใช้เพื่อเปิดตาจะขยับดึงกระดูกอ่อนที่เปลือกตาและหนังตาให้เปิดขึ้น โดยจุดยึดชั้นตาที่อยู่ระหว่างหนังตาและขอบบนของกระดูกอ่อนเปลือกตาจะถูกยกขึ้นทำให้ผิวหนังที่อยู่เหนือจุดยึดชั้นตานี้หย่อนลงมาคลุมและมองเห็นเป็นความสูงของชั้นตาหรือที่เราเรียกว่าตาสองชั้นนั่นเองครับ
ปัญหาชั้นตาที่พบได้บ่อย

ด้วยลักษณะโครงสร้างรูปตาของคนไทยหรือชาวเอเชียที่มีขนาดเล็ก มีพื้นที่ส่วนหัวตาน้อยและมีไขมันสะสมที่บริเวณเปลือกตาค่อนข้างมากส่งผลให้มีลักษณะปัญหาชั้นตาที่พบได้บ่อยประมาณ 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
1. ตาตี่ ตาชั้นเดียว ไม่มีชั้นตา
คนไข้จำนวนไม่น้อยต้องการทำตาสองชั้นเพราะมีตาชั้นเดียว ตาตี่และต้องการสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ หรือในบางรายอาจมาด้วยปัญหาชั้นตาหลบในที่เกิดจากการมีไขมันเปลือกตาเยอะทำให้เปลือกตาตกลงมาบดบังจุดยึดชั้นตาจนทำให้มองไม่เห็นชั้นตาเหมือนคนมีตาชั้นเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีบางเคสที่มาด้วยปัญหาจุดยึดชั้นตาตามธรรมชาติอยู่ต่ำมากๆ จนเกือบถึงระดับขอบล่างของหนังตาเมื่อลืมตาจึงมองไม่เห็นชั้นตาเลยก็มีครับ
2. ความสูงชั้นตาเล็กเกินไป
อาจเป็นความสูงชั้นตาที่มีอยู่แล้วตั้งแต่เกิดหรือเคยทำตาสองชั้นมาก่อนแล้วแต่รู้สึกว่าความสูงชั้นตาเล็กเกินไป และต้องการเพิ่มระดับความสูงของชั้นตาเพื่อช่วยให้มองเห็นชั้นตาได้อย่างชัดเจนและปรับขนาดของดวงตาให้ดูกลมโตสดใสมากขึ้น
3. ชั้นตาใหญ่เกินไป
เป็นอีกปัญหาที่พบได้บ่อยในคนที่เคยทำตาสองชั้นมาแล้วและต้องการชั้นตาที่ใหญ่กว่าปกติ โดยเน้นไปที่การกรีดตาสูงและเย็บกับกล้ามเนื้อตาจุดสูงๆ เพื่อให้ชั้นตาดูโตขึ้น ชัดขึ้นมากเป็นพิเศษ แต่ผลที่ได้คือทำให้ตาปรือ ลืมตาได้ไม่สุดดูคล้ายคนที่กำลังง่วงนอนตลอดเวลาเพราะการเย็บหนังติดกับกล้ามเนื้อในตำแหน่งที่สูงเกินไปจะทำให้ระยะการทำงานของกล้ามเนื้อตาสั้นลง เมื่อออกแรงยกเปลือกตาแค่เพียงเล็กน้อยก็ติดกับตำแหน่งที่เย็บสร้างชั้นตาเอาไว้หรืออาจชนกับขอบกระดูกด้านบน สำหรับในเคสนี้จะทำให้แก้ไขได้ยากขึ้นเพราะจะต้องผ่าตัดแก้ไขเพื่อลดระยะแผลลง (ถ้าหนังตายังเหลือเพียงพอให้ยืดลงมา) โดยแพทย์จะต้องรื้อโครงสร้างเพื่อคลายจุดเดิมที่เย็บติดกล้ามเนื้อไว้แล้ว fix ในจุดที่ต่ำลงและอยู่เหนือระดับกระดูกอ่อนแผงขนตาจากนั้นจึงเย็บกระชับกล้ามเนื้อแยกต่างหาก หรือในบางเคสอาจจะต้องแก้ไขด้วยการปรับยกกล้ามเนื้อทั้งแผงแล้วตัดระยะเกินออกอย่างพอเหมาะซึ่งจะทำได้ยากขึ้นและต้องอาศัยฝีมือการรักษาของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้นครับ
4. หนังตาตก เปลือกตาหย่อนตามอายุที่เพิ่มขึ้น
เป็นเคสที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีไขมันเปลือกตาหนา โดยกลุ่มนี้จะมีจุดยึดชั้นตาอยู่ที่ตำแหน่งเดิมแต่หนังตาที่เสียสภาพความยืดหยุ่นตกลงมาปิดชั้นตา ส่งผลทำให้ชั้นตาเล็กลงหรือแทบมองไม่เห็นชั้นตา
นอกไปจากปัญหาชั้นตาที่พบได้บ่อยเหล่านี้แล้วยังมีเคสปัญหาอื่นๆ ที่อาจพบได้ เช่น ชั้นตาไม่เท่ากัน ตาลึก ตาโหล หัวตาปิด หางตาตก ฯลฯ ที่แตกต่างกันออกไปตามโครงสร้างดวงตาของคนไข้แต่ละรายบุคคล
เรื่องที่ต้องระวังเกี่ยวกับการผ่าตัดทำตาสองชั้น
เมื่อเราได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างของเปลือกตา หลักการเกิดชั้นตารวมถึงปัญหาชั้นตาที่พบได้ค่อนข้างบ่อยไปแล้วนั้นสำหรับในหัวข้อนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่หมออยากให้คนไข้ทุกคนได้ศึกษาข้อมูลกันโดยละเอียดซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องที่ควรระวังก่อนการผ่าตัดทำตาสองชั้นครับ
1. วิธีการลงแผลทำตาสองชั้น
หากพูดถึงการทำตาสองชั้นในสมัยนี้อาจมีชื่อเรียกมากมายหลายเทคนิคไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้นเทคนิคแผลใน แผลนอก การทำตาสองชั้นแบบไร้แผล ฯลฯ จนทำให้คนไข้หลายคนเกิดความสับสนได้ แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถแบ่งเทคนิคการทำตาสองชั้นออกเป็นแบบใหญ่ๆ ได้ 2 แบบ ได้แก่
- เทคนิคการทำตาสองชั้นแบบเย็บเป็นจุด
การทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคนี้จะไม่กรีดเปิดแผลที่บริเวณเปลือกตาด้านนอกแต่จะใช้การเย็บให้เกิดหลุมหรือแผลเป็นตามแนวที่ต้องการให้เกิดเป็นชั้นตา โดยแพทย์อาจจะมีการเจาะแผลขนาดเล็กเพื่อนำไขมันเปลือกตาออกบางส่วนทำให้ชั้นตาคมชัด ผิวเปลือกตาไม่หย่อนคล้อยจากนั้นจึงใช้ไหมเย็บในลักษณะเป็น loop สำหรับเทคนิคการเย็บจุดเหมาะกับคนไข้ที่อายุยังน้อย มีหนังตาและไขมันเปลือกตาไม่หนามาก - เทคนิคการทำตาสองชั้นแบบกรีดเปิดหนังตา
เทคนิคนี้แพทย์จะกรีดเปิดแผลที่ด้านนอกของเปลือกตาโดยจะมีทั้งการกรีดเปิดแผลขนาดเล็ก ประมาณ 3-5 มม. และการกรีดยาวที่จะเป็นการกรีดตลอดแนวยาวของดวงตา หลังจากนั้นแพทย์จะทำการตกแต่งและแก้ไขโครงสร้างชั้นตาด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ หนังตา ไขมันและกล้ามเนื้อ (โดยหมอขอจะพูดถึงรายละเอียดเชิงลึกในหัวข้อถัดไปครับ) แล้วจึงเย็บล็อกชั้นตาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเทคนิคนี้จะเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาชั้นตาที่ต้องแก้ไขเยอะ หนังตาหย่อนและมีไขมันเปลือกตาหนา
นอกไปจากการแก้ไขปัญหาชั้นตาด้วย 2 เทคนิคหลักนี้แล้วยังมีการปรับใช้เทคนิคอื่นๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาชั้นตาของแต่ละบุคคลได้อย่างครบถ้วน เช่น เทคนิคการเปิดหัวตา เปิดหางตา การยกหางตา ทำตาปลายหางหงส์ ฯลฯ ทั้งนี้แพทย์จะต้องเป็นผู้ประเมินและเลือกใช้เทคนิคอย่างเหมาะสมครับ
2. ตำแหน่งของการยึดชั้นตาที่เหมาะสม
เรื่องสำคัญถัดมาเกี่ยวกับการทำตาสองชั้นก็คือ ตำแหน่งของการยึดชั้นตาโดยตำแหน่งของการยึดชั้นตาจะต้องอยู่ที่ขอบบนของกระดูกอ่อนของเปลือกตา (tarsal plate) เท่านั้น หากยึดสูงไปกว่าตำแหน่งนี้จะเป็นการไปยึดที่กล้ามเนื้อที่ใช้เปิดตาแทนและส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้เปิดตาทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น ชั้นตาดูบวมไม่หาย ลืมตาได้ไม่เต็มที่ ตาลึกโหล ตาดูปรือและอาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากในกลุ่มคนไข้ที่เข้ามาแก้ตาสองชั้นเนื่องจากแพทย์ขาดความรู้ความเข้าใจที่มากพอจนส่งผลให้เลือกใช้วิธีการผ่าตัดทำตาสองชั้นอย่างไม่เหมาะสมนั่นเองครับ
3. แนวของจุดยึดชั้นตาต้องเป็นธรรมชาติ

นอกไปจากตำแหน่งของการยึดชั้นตาที่บริเวณขอบบนของกระดูกอ่อนของเปลือกตาแล้วนั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่แพทย์ต้องให้ความสำคัญ คือ แนวของจุดยึดชั้นตาที่เป็นธรรมชาติ ถึงแม้คนไข้บางคนจะตาตี่หรือไม่มีชั้นตาเลยแต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีรอยพับของหนังตาที่เกิดจากการลืมตาเป็นล้านๆ ครั้งอยู่ ศัลยแพทย์ผู้รับผิดชอบจะต้องสามารถกำหนดแนวจุดยึดของชั้นตาได้อย่างเหมาะสม ไม่กำหนดข้ามแนวจนทำให้ได้ชั้นตา 2 แฉกที่ดูผิดธรรมชาติ ไม่กำหนดแนวให้อยู่ต่ำเกินไปจนมองไม่เห็นชั้นตาและไม่กำหนดแนวจุดยึดยาวเกินกระบอกตาจนทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือทำให้หางตาดูตกยิ่งกว่าเดิม ทั้งนี้ระดับความสูงของเส้นชั้นตาจะต้องไม่เกิน 1 ใน 3 ของระยะห่างระหว่างขนตากับใต้คิ้วซึ่งสำหรับเคสของชาวไทย ชาวเอเชีย อาจกำหนดให้แนวชั้นอยู่สูงจากขนตาประมาณ 6-8 มม. ก็นับว่าเพียงพอแล้วครับ
4. การเติมหรือดูดไขมันที่บริเวณเปลือกตาได้ระดับที่พอดี
ส่วนสำคัญถัดมาของการตกแต่งโครงสร้างเปลือกตาคือ ไขมันเปลือกตา จุดนี้แพทย์จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าปัญหาที่แท้จริงของคนไข้ในเคสนั้นๆ เกิดจากสาเหตุใดกันแน่? เกิดจากไขมันเปลือกตาน้อยเกินไปหรือเกิดจากมีไขมันหนาเกินไป โดยเคสที่เจอบ่อยๆ เลยก็คือการย้ายไขมันออกมากเกินไปจนส่งผลให้ตาแห้ง ตาโหล เบ้าตาลึก หลังจากทำตาสองชั้นมาแล้วหน้าตาจึงดูหมองคล้ำไม่สดใส หน้าดูแก่ ทั้งนี้บริเวณที่แพทย์นิยมนำไขมันเปลือกตาออกจะเป็น Fat pocket ที่บริเวณหัวตา หางตาและจะเก็บไขมันบริเวณกลางตาเอาไว้เพื่อให้เปลือกตาอิ่มฟูและดูมีวอลลุ่ม สำหรับในเคสที่หนังตาแห้งจริงๆ อาจใช้เทคนิคการทำไมโครแฟต (micro fat) ย้ายไขมันจากตำแหน่งอื่น เช่น ไขมันหน้าท้อง สะโพกหรือต้นขา มาเติมบริเวณเปลือกตาให้ดูเต็มขึ้น
5. ชั้นกล้ามเนื้อที่ใช้ลืมตา เป็นอีกจุดสำคัญ

กล้ามเนื้อที่ใช้ออกแรงเพื่อยกเปลือกตา (Levator Palpebrae) ที่มีลักษณะเป็นชั้นกล้ามเนื้อบางๆ เป็นจุดที่สำคัญมากในการทำตาสองชั้นเพราะศัลยแพทย์จะต้องทำให้ชั้นใต้ผิวหนังของจุดที่กำหนดให้เป็นชั้นตามาเกาะเข้ากับกล้ามเนื้อตาให้ได้ หรือในเคสที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาทำงานได้ไม่เต็มที่ก็จะต้องทำให้กล้ามเนื้อตาส่วนนี้ยึดเข้ากับแผงขนตาหรือกระดูกอ่อนของแผงขนตาเพื่อทำให้ออกแรงยกเปลือกตาขึ้นด้วยแรงดึงที่พอเหมาะ ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยคือแพทย์หลายๆ ท่านอาจจะหาชั้นกล้ามเนื้อตาไม่เจอจนทำให้ใช้เวลาในการผ่าตัดทำตาสองชั้นนานหลายชั่วโมง บางเคสก็อาจเกิดการผ่าตัดผิดพลาดไปโดนชั้นกล้ามเนื้อตาส่งผลให้หนังตาตกแบบถาวรหรือในบางทีก็อาจเจอแพทย์ที่ใช้วิธีเปิดถึงแค่ชั้นใต้ผิวหนังแล้วเย็บรวมเอาเพื่อให้เกิดพังผืดเป็นชั้นตาใหม่ ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ การเกิดพังผืดขึ้นในบริเวณที่ไม่เหมาะสมและยังทำให้ชั้นตาหลุดได้ง่ายมาก พอเข้ารับการผ่าตัดแก้ตาสองชั้นก็จะแก้ไขได้ยากเพราะแพทย์จะต้องค่อยๆ เลาะเอาพังผืดออกไปทีละน้อยเพื่อระบุหาตำแหน่งที่ถูกต้องของชั้นกล้ามเนื้อตาและทำให้กล้ามเนื้อตากลับมาทำงานได้อย่างอิสระ จากนั้นจึงกำหนดตำแหน่งที่ต้องเย็บยึดชั้นตาอย่างเหมาะสมและกระชับกล้ามเนื้อตาให้ตึงขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นแล้วจึงควรเลือกทำตาสองชั้นกับแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างเปลือกตาเป็นอย่างดีและมีประสบการณ์ในการรักษาที่มากพอจะช่วยยืนยันถึงผลลัพธ์หลังการรักษาที่มีประสิทธิภาพได้ครับ
6. เทคนิคการเย็บแผลของศัลยแพทย์ผู้ทำการรักษา
อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ เทคนิคการเย็บแผลที่ต้องอาศัยความละเอียดประณีตเป็นอย่างมาก โดยแนวของการเย็บจะต้องเป็นเส้นเดียว ฝีเย็บละเอียดและต่อเนื่องไม่เป็นรอยตะขาบขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่สังเกตเห็นได้ชัดบริเวณเปลือกตา นอกจากนี้ยังมีการนัดตัดไหมที่ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไปซึ่งโดยปกติแล้วแพทย์จะมีกำหนดนัดตัดไหมภายในช่วง 3-6 วัน หรือไม่เกิน 7-8 วันหลังการผ่าตัดทำตาสองชั้นครับ
สรุป
จะเห็นได้ว่าการทำตาสองชั้นไม่ใช่แค่เพียงการเย็บเพื่อทำให้เกิดรอยพังผืดที่เปลือกตาเท่านั้น แต่ศัลยแพทย์จะต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยตั้งแต่การเลือกใช้เทคนิคทำตาสองชั้นที่เหมาะสมกับปัญหาชั้นตาของคนไข้แต่ละเคส การกำหนดตำแหน่งยึดชั้นตาที่เหมาะสม แนวของจุดยึดชั้นตาที่ต้องใช้แนวธรรมชาติเป็นหลัก การเติม/ดูดไขมันเปลือกตาที่ต้องไม่มากหรือน้อยจนเกินไป การเย็บแก้ไขกล้ามเนื้อตาให้ออกแรงดึงในระดับที่เหมาะสมสวยงามและเทคนิคการเย็บแผลให้เนียนสวย ไร้รอยแผลเป็น นอกจากนี้ตัวคนไข้เองก็ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงสร้างเปลือกตาและรายละเอียดที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำตาสองชั้น เพื่อที่เราจะได้ปรึกษาข้อมูลก่อนการผ่าตัดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างละเอียดครบถ้วน ทำให้ได้ผลลัพธ์การทำตาสองชั้นที่สวยงามตรงใจและช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาข้างเคียงอื่นๆ ตามมาได้ครับ