การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ศัลยกรรม

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ศัลยกรรม แผลหายเร็ว ยุบบวมไว ไร้ผลข้างเคียง

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการควรให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรม การเลือกคลินิกเสริมความงามที่ปลอดภัย และการเฟ้นหาศัลยแพทย์ผู้รับผิดชอบที่มีความชำนาญเฉพาะด้านตอบโจทย์ความต้องการของตนเอง เพราะการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดศัลยกรรมได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมีส่วนช่วยสร้างผลลัพธ์หลังการผ่าตัดศัลยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมทำตาสองชั้น การศัลยกรรมเสริมหน้าอกหรือการผ่าตัดอื่นๆ ให้ออกมาสวยงาม น่าพึงพอใจ ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์หลังการรักษา เช่น อาการอักเสบและติดเชื้อ รอยแผลบวม แผลสมานตัวช้าหรือการเกิดรอยแผลเป็นที่สังเกตเห็นได้อย่างเด่นชัด บทความนี้หมอจะมาอธิบายเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการที่กำลังวางแผนเข้ารับการผ่าตัดในระยะเวลาอันใกล้หรืออยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังการผ่าตัดใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติและสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดครับ

รวมวิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรม แผลหายเร็ว ยุบบวมไว ไร้ผลข้างเคียง

  • ดูแลทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ศัลยกรรม

การดูแล เช็ด ล้าง ทำความสะอาดแผลผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังไม่ให้รอยแผลสัมผัสกับน้ำหรือเหงื่อโดยตรงนับเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้แผลผ่าตัดเกิดอาการอักเสบ บวมแดงหรือติดเชื้อ เป็นสาเหตุทำให้แผลหายช้าและยังเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็น โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดควรล้างทำความสะอาดแผลอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยการใช้คอตตอนบัดหรือสำลีซับเอาของเหลวต่างๆ ออกจากรอยแผล จากนั้นจึงใช้สำลีสะอาดชุบน้ำเกลือและเช็ดทำความสะอาดที่บริเวณรอยแผลอย่างเบามือ เมื่อรอยแผลผ่าตัดสะอาดดีแล้วจึงซับแผลให้แห้งสนิทและใส่ยาเบตาดีนหรือทายาขี้ผึ้งช่วยเคลือบแผลผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ก่อนทำความสะอาดรอยแผลผ่าตัดทุกครั้งควรล้างมือให้สะอาดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ร่วมกับการล้างแผลสะอาด ปราศจากเชื้อโรค

  • การประคบเย็นและประคบอุ่น เพื่อลดอาการบวมช้ำหลังการผ่าตัด
ประคบเย็นและอุ่น ลดบวมช้ำหลังการผ่าตัด

ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้วิธีประคบเย็นต่อด้วยการประคบร้อนเพื่อช่วยลดอาการบวม รอยฟกช้ำหลังการผ่าตัดได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง โดยสามารถเริ่มประคบเย็นได้ทันทีหลังการผ่าตัดและสามารถประคบเย็นได้เรื่อยๆ ในช่วง 5 วันแรกหลังการผ่าตัด อาจใช้เป็นเจลแพ็กหรือผ้าขนหนูแช่เย็นประคบบริเวณรอยแผลผ่าตัด ความเย็นจะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัวและมีการดูดน้ำกลับเข้าสู่เซลล์มากยิ่งขึ้น ช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำ หลังจากนั้นให้เริ่มประคบเย็นสลับอุ่น ครั้งละประมาณ 10-15 นาที เพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้การประคบอุ่นยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวด โดยอาจใช้เป็นเจลประคบร้อนสำเร็จรูป ถุงน้ำร้อนหรือผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น จุดสำคัญคือต้องควบคุมอุณหภูมิความร้อนให้เหมาะสม ไม่ควรใช้น้ำที่อุณหภูมิต้มร้อนแต่ใช้เป็นน้ำอุ่นจัดๆ ที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวโดยรอบแผลผ่าตัดเกิดอาการพองไหม้เนื่องจากผิวบริเวณดังกล่าวอาจมีอาการชาหลงเหลืออยู่จนทำให้ไม่รู้สึกตัวว่าอุณหภูมิที่ใช้ร้อนเกินไป

  • นอนหนุนหัวสูงเพื่อช่วยลดอาการบวมและฟกช้ำที่บริเวณแผลผ่าตัด

การนอนหนุนหัวให้สูงมากกว่าระดับปกติมีส่วนช่วยในการลดอาการบวมและฟกช้ำได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้เข้ารับผ่าตัดศัลยกรรมที่ส่วนบนของร่างกาย เช่น ศัลยกรรมทำตาสองชั้น การผ่าตัดเสริมจมูก การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) การศัลยกรรมเสริมหน้าอก ฯลฯ ซึ่งการนอนหนุนหัวสูงช่วยป้องกันไม่ให้มีเลือดคั่งและลดการสะสมของของเหลวที่บริเวณรอยแผลผ่าตัดจึงช่วยลดอาการบวม ทั้งนี้ยังมีการศึกษาวิจัยการลดบวมและฟกช้ำหลังทำศัลยกรรมเสริมจมูก Intervention to Decrease Postoperative Edema and Ecchymosis after Rhinoplasty: A Systematic Review of Literature” ซึ่งได้รวบรวมงานวิจัยกว่า 50 งาน ยังยืนยันในทิศทางเดียวกันว่าการนอนยกศีรษะสูงหรือนอนหนุนหัวสูงมากมากกว่าระดับปกติมีส่วนช่วยให้แผลยุบบวมไวมากขึ้น ทั้งนี้ระดับความสูงที่แนะนำคือให้นอนหนุนหัวสูงกว่าปกติแค่เพียงเล็กน้อย ไม่ควรหนุนหัวสูงมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย หรือทำให้เกิดปัญหาการวางคอผิดรูปซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายและมัดกล้ามเนื้อได้

  • เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมในช่วงหลังการผ่าตัด
เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมหลังการผ่าตัด

การเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด โดยผู้เข้ารับบริการควรรับประทานอาหารรสอ่อนๆ อาหารที่ย่อยง่ายรวมถึงอาหารที่มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมฟื้นฟูรอยแผล ช่วยลดอาการบวมหลังการผ่าตัด เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว กรีกโยเกิร์ต ธัญพืชเต็มเมล็ดและถั่วต่างๆ ฟักทอง สาหร่าย น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและผักใบเขียว ที่สำคัญควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นและส่งเสริมให้เซลล์ผิวฟื้นฟูตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังการผ่าตัดผู้เข้ารับบริการควรหลีกเลี่ยงอาหารทุกชนิดที่มีรสจัดเป็นเวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ทั้งอาหารเค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัดเพราะอาจทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำเข้าสู่เซลล์มากขึ้นจนทำให้เกิดอาการบวม รวมไปจนถึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้แผลผ่าตัดเกิดอาการอักเสบและติดเชื้อได้โดยง่าย

  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ทุกชนิดหลังการผ่าตัดศัลยกรรม

สำหรับผู้เข้ารับบริการท่านไหนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า ไวน์ บรั่นดี วิสกี้ ฯลฯ หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ควรงดกิจกรรมเหล่านี้เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเนื่องจากแอลกอฮอล์และสารนิโคติน (Nicotine) ที่พบในบุหรี่มีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้ค่าความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดอาการบวม อักเสบและอาจทำให้เกิดภาวะเลือดหยุดไหลยาก มีเลือดซึมออกมาจากรอยแผลผ่าตัดนานกว่าปกติ นอกจากนี้สารพิษมากกว่า 4,000 ชนิดในบุหรี่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำให้แผลผ่าตัดหายช้าและยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ    

  • การใช้ยาหรือสมุนไพรที่มีส่วนช่วยบรรเทาอาการบวมหลังการผ่าตัด

ปัจจุบันมีข้อมูลงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นตรงกันว่าการใช้ยาหรือสมุนไพรบางชนิดมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูรอยแผลหลังการผ่าตัด ช่วยลดบวม โดยงานวิจัยจำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ Intervention to Decrease Postoperative Edema and Ecchymosis after Rhinoplasty: A Systematic Review of Literature และ The effectiveness of postoperative intervention in patients after rhinoplasty: a meta-analysis แสดงข้อมูลให้เห็นตรงกันว่าการใช้สมุนไพรที่มีชื่อเรียกว่าArnica Montana ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งในตระกูลดอกทานตะวันมีคุณสมบัติช่วยลดบวมหลังการผ่าตัดได้ ทั้งนี้ควรรับประทานยาและสมุนไพรลดบวมภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้รับผิดชอบเท่านั้น ไม่ควรหาซื้อยาหรือสารสกัดสมุนไพรอื่นๆ มาใช้ด้วยตนเอง

  • เข้ารับหัตถการ ทำทรีตเมนต์ ทำเลเซอร์ (Laser) เมื่อแพทย์อนุญาตเท่านั้น
เข้ารับหัตถการ ทำทรีตเมนต์ ทำเลเซอร์ (Laser)

ผู้เข้ารับบริการหลายท่านอาจเป็นรู้สึกเป็นกังวลว่าจะเกิดรอยแผลเป็น ร่องรอยสีผิวไม่สม่ำเสมอหลังการผ่าตัดศัลยกรรมจนอยากเข้ารับหัตถการเลเซอร์ผิว ทรีตเมนต์ผิวให้เร็วที่สุดหลังการผ่าตัด ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยส่วนใหญ่มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้ารับหัตถการเหล่านี้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ อาการบวมช้ำและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยมากที่สุดจึงควรปรึกษาแพทย์ให้ช่วยตัดสินใจว่าแผลผ่าตัดหายดีแล้วหรือไม่? สามารถเข้ารับหัตถการเลเซอร์ ทรีตเมนต์ดูแลผิวต่างๆ ได้หรือยัง

  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

หลังทำศัลยกรรมออกกำลังกายได้ไหม? ต้องรอให้ผ่าตัดครบกี่วันจึงจะออกกำลังกายได้? เป็นคำถามที่ผู้เข้ารับบริการสอบถามเข้ามาค่อนข้างบ่อยครับ เนื่องจากหนุ่มๆ สาวๆ หลายท่านต้องการดูแลรูปร่างและสัดส่วนให้ดูดีอยู่เสมอ ทั้งนี้หมอจะขออ้างอิงจากผลการศึกษาในวารสาร Plastic and Reconstructive Surgery ที่แบ่งกลุ่มผู้เข้ารับบริการหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้งดออกกำลังกายเป็นเวลา 3 เดือน กลุ่มที่ 2 ให้ออกกำลังกายด้วยการเดินและวิ่งหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มที่ 3 ให้ออกกำลังกายโดยการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (หากออกกำลังกายแล้วรู้สึกเจ็บก็สามารถปรับลดความเข้มข้นลงได้) หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์เช่นเดียวกัน โดยผู้เข้ารับบริการทั้ง 3 กลุ่มจะต้องสวมเสื้อในยกกระชับตลอดเวลาในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด จากการติดตามผลการรักษาเป็นระยะเวลา 12 เดือนพบว่าในแง่ของการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดและการเกิดรอยแผลเป็นของผู้เข้ารับบริการทั้ง 3 กลุ่มนั้นไม่แตกต่างกัน คือ ไม่มีภาวะเลือดออกหลังการผ่าตัดหรืออาการผิดปกติต่างๆ รวมไปจนถึงไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น แต่ผู้เข้ารับบริการกลุ่มที่ 2 และ 3 กลับมีความรู้สึกพึงพอใจในผลการผ่าตัดและคุณภาพชีวิตดีกว่ากลุ่มที่ 1 ที่ไม่ได้ออกกำลังกายในช่วง 3 เดือนแรกหลังการผ่าตัด ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่าหลังการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างน้อย 1 สัปดาห์ สามารถเริ่มออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น การเดินเร็ว การวิ่งเหยาะๆ หรือเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในระดับความเข้มข้นที่พอเหมาะเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูร่างกายได้ ทั้งนี้จะต้องรู้ข้อจำกัดของตัวเอง หากออกกำลังกายแล้วรู้สึกเจ็บควรหยุดพักไปก่อนและรอให้ร่างกายฟื้นตัวดีขึ้นจึงค่อยเริ่มออกกำลังกายอีกครั้ง

  • ควรเข้าพบแพทย์ตามนัด ไม่ผิดนัด
ควรเข้าพบแพทย์ตามนัด ไม่ผิดนัด

หลังการผ่าตัดศัลยกรรมแพทย์จะทำการนัดหมายให้ผู้เข้ารับบริการเข้ามาที่คลินิกหรือสถานพยาบาลอยู่เป็นระยะๆ โดยอาจมีการนัดตัดไหมในช่วง 7-14 วันหลังการผ่าตัดขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการผ่าตัดศัลยกรรม นอกจากนี้ยังมีการนัดติดตามผลเมื่อครบช่วง 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ผู้เข้ารับบริการควรเข้าพบแพทย์ตามนัด ไม่ผิดนัดถึงแม้ว่าแผลผ่าตัดจะเข้าที่ดีแล้วก็ตามเพื่อให้แพทย์ผู้รับผิดชอบได้ตรวจเช็กรอยแผลผ่าตัดโดยละเอียด ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยที่ผู้เข้ารับบริการอาจไม่รู้ตัวครับ

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์/พยาบาล อย่างเคร่งครัด

สิ่งสำคัญของการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดศัลยกรรมไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น การผ่าตัดเสริมจมูก การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า การเสริมหน้าอก ฯลฯ คือ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือพยาบาลอย่างเคร่งครัด ทั้งการดูแลทำความสะอาดแผลด้วยวิธีและความถี่ที่แพทย์แนะนำ การทายา/รับประทานยาที่ทางคลินิกจ่ายให้ตรงตามเวลาและต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง ไม่หยุดใช้ยาด้วยตนเอง การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น ผู้ที่เข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกอาจจะต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยการนวดคลึงบริเวณรอบๆ แผลผ่าตัดเพื่อไม่ให้เกิดพังผืดหรือแผลจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อซิลิโคนที่เป็นสิ่งแปลกปลอม การสวมใส่ชุดชั้นในเพื่อยกกระชับตลอดเวลา การนอนยกหัวสูงกว่าปกติ ฯลฯ ทั้งนี้ควรหมั่นสังเกตลักษณะอาการของรอยแผลผ่าตัดอยู่เสมอ หากตรวจพบอาการผิดปกติควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์ผู้รับผิดชอบในทันที

สรุป

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างถูกต้องเหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างผลลัพธ์หลังการรักษาที่สวยงาม ตรงกับความต้องการ ช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ต่างๆ หลังการผ่าตัด เช่น การอักเสบ บวมแดง รอยฟกช้ำ ภาวะแผลติดเชื้อ แผลหายช้าและยังเสี่ยงต่อการทำให้เกิดรอยแผลเป็น ดังนั้นแล้วผู้เข้ารับบริการจึงควรศึกษาวิธีการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดให้ละเอียดและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดไม่ว่าจะเป็นการดูแลทำความสะอาดแผลผ่าตัด การประคบร้อน-ประคบเย็นหลังการผ่าตัด การนอน-นั่งในท่าที่กำหนด การรับประทานยา การเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างเหมาะสมตลอดไปจนถึงการเข้าพบแพทย์ตามนัดอยู่เสมอเพื่อให้การผ่าตัดศัลยกรรมเป็นไปในทิศทางที่ดี สร้างผลลัพธ์ที่สวยงามชัดเจนและมีความปลอดภัยต่อตัวผู้เข้ารับบริการได้มากที่สุด

ครั้งแรกของแพลตฟอร์มที่เผยแพร่ความรู้ด้านศัลยกรรมความงาม อยู่ภายใต้การดูแลโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งและทีมแพทย์เฉพาะทาง