การศัลยกรรมเสริมคาง เป็นอีกหนึ่งหัตถการปรับสัดส่วนใบหน้าที่มักถูกหยิบยกมาพิจารณากันอยู่บ่อยๆ เพราะการมีใบหน้าที่สมส่วนและมีช่วงคางที่ยาวสวยรับกับส่วนอื่นๆ ของใบหน้าได้อย่างพอเหมาะจะช่วยเพิ่มมิติ เสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้าได้อย่างชัดเจน โดยรูปคางที่เป็นที่นิยมในกลุ่มสาวๆ จะเป็นทรง V-Shape คางทรงแหลมมุมป้านช่วยให้ใบหน้าดูสวยหวานละมุนและสำหรับหนุ่มๆ จะเหมาะกับคางมุมป้านที่มีลักษณะความโค้งมนแบบกำลังดีเพื่อช่วยเสริมให้ใบหน้าดูหล่อ คมเข้ม ปัจจุบันเทคนิคการศัลยกรรมเสริมคางถูกพัฒนาให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบทั้งการศัลยกรรมเสริมคางด้วยการผ่าตัดและไม่ต้องผ่าตัดซึ่งแต่ละวิธีเหมาะสำหรับใช้แก้ไขปัญหารูปทรงคางที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้จะพาเจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องการศัลยกรรมเสริมคาง เทคนิคการเสริมคางรูปแบบต่างๆ ควรเลือกเสริมคางด้วยวิธีไหน? การเสริมคางเหมาะกับใคร? มาดูทุกคำตอบไปพร้อมกันได้เลยครับ
การศัลยกรรมเสริมคาง คืออะไร?

การศัลยกรรมเสริมคาง (Chin surgery) คือ การศัลยกรรมเพื่อปรับปรุงแก้ไขรูปทรงคางให้ได้สัดส่วนที่สวยงามและรับเข้ากับใบหน้ามากขึ้น เสริมให้ใบหน้าดูเรียวยาวมีมิติและเพิ่มเสน่ห์ชวนมอง ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีเทคนิคการศัลยกรรมเสริมคางให้เลือกทำหลายรูปแบบโดยสามารถจำแนกวิธีการศัลยกรรมเสริมคางออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ การศัลยกรรมเสริมคางด้วยการผ่าตัด และการศัลยกรรมเสริมคางที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด ซึ่งแต่ละเทคนิคเหมาะกับการใช้เพื่อแก้ไขปัญหารูปทรงคางที่ไม่เหมือนกันโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องเป็นผู้ประเมินปัญหาคางของคนไข้อย่างละเอียดและกำหนดวิธีศัลยกรรมเสริมคางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละเคส
การศัลยกรรมเสริมคาง ช่วยแก้ปัญหาใดได้บ้าง
การศัลยกรรมเสริมคางโดยเทคนิควิธีที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับรูปทรงของคางให้เรียวสวย ได้สัดส่วนที่สวยงามและช่วยเสริมให้ใบหน้าได้สมดุลมากยิ่งขึ้นพร้อมช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเห็นผล
- การศัลยกรรมเสริมคางช่วยแก้ปัญหาคางที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดให้ดีขึ้นได้ทั้งปัญหาคางตัด คางสั้น คางถอย คางบุ๋ม คางเบี้ยว คางยื่น ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน
- การศัลยกรรมเสริมคางช่วยแก้ไขปัญหาคางผิดรูปหลังเกิดอุบัติเหตุที่บริเวณใบหน้า
- การศัลยกรรมเสริมคางช่วยแก้ไขคางที่ผิดรูปจากการศัลยกรรมคางที่ผิดพลาด ช่วยปรับรูปทรงคางให้ได้สัดส่วนสวยงามตามที่ควรจะเป็นได้อีกครั้ง
- การศัลยกรรมเสริมคางช่วยปรับเสริมโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดูดีมากขึ้นตามความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งคางที่ดีตามศาสตร์โหงวเฮ้งจะต้องมีลักษณะที่สวยกลมมนได้รูป คางดูมีเนื้ออวบอิ่มแต่พอดี ช่วงคางจะต้องไม่เล็กแหลม ไม่บุ๋มเป็นร่องหรือมีคางสองชั้น
การศัลยกรรมเสริมคาง มีกี่แบบ? เหมาะกับใครบ้าง?
ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมคางหรือการปรับปรุงแก้ไขรูปทรงคางมีหลายเทคนิค โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ การศัลยกรรมเสริมคางด้วยการผ่าตัด และการศัลยกรรมเสริมคางที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธียังมีรายละเอียดเชิงลึกและเหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหารูปทรงคางที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1.การศัลยกรรมเสริมคางด้วยการผ่าตัด

เป็นเทคนิคการปรับปรุงแก้ไขรูปทรงคางให้ได้สัดส่วนที่สวยงามมากขึ้นโดยการผ่าตัดซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหารูปทรงคางที่ต้องจัดการเยอะรวมถึงเคสที่ต้องการปรับเพิ่มความยาวของคางมากกว่า 1 cm. โดยสามารถแบ่งออกเป็นอีก 2 กลุ่มย่อย ได้แก่
- การผ่าตัดเสริมคางด้วยการใช้ซิลิโคน (Silicone Implant) ทั้งซิลิโคนขาสั้น และซิลิโคนขายาว เป็นการผ่าตัดเสริมคางด้วยการเปิดแผลขนาดเล็กที่มีผลถาวร โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลแล้วนำชิ้นส่วนของซิลิโคนใส่เข้าไปที่บริเวณคางของคนไข้เพื่อปรับรูปทรงของคางให้สวยงามได้รูปตามที่ได้ออกแบบเอาไว้ล่วงหน้า โดยสามารถทำการผ่าตัดเสริมคางได้ 2 วิธี ได้แก่
- การผ่าตัดเสริมคางแผลนอก แพทย์จะทำการฉีดยาชาและกรีดเปิดแผลเล็กขนาด 1-1.5 cm. ที่บริเวณใต้คางและสร้างพื้นที่บริเวณเนื้อเยื่อตรงคางในระดับใต้เยื่อหุ้มกระดูกเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับใส่ซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ ข้อดีของการผ่าตัดเสริมคางแผลนอกคือ รอยแผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวได้ไว ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อจากเศษอาหารและน้ำลายในช่องปากและสามารถทำการผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อช่วยลดเหนียง ลดคางห้อยให้ดีขึ้นได้พร้อมๆ กัน
- การผ่าตัดเสริมคางแผลใน แพทย์จะเริ่มขั้นตอนด้วยการฉีดยาชาแล้วจึงกรีดเปิดแผลที่บริเวณเหงือกด้านในและริมฝีปากล่างเพื่อสอดซิลิโคนเข้าไปยังบริเวณใต้คาง ทั้งนี้ขนาดความกว้างของแผลขึ้นอยู่กับขนาดของซิลิโคนที่ใช้สำหรับเสริมคาง จากนั้นจึงเย็บปิดแผลด้วยไหมละลายเป็นขั้นตอนสุดท้าย ข้อดีของเทคนิคนี้คือสังเกตเห็นรอยแผลได้ค่อนข้างยาก เหมาะกับคนที่มีปัญหารูปทรงคางค่อนข้างมากแต่ไม่อยากมีรอยแผลเป็นที่ด้านนอกของคาง ข้อควรระวังของการผ่าตัดเสริมคางแผลในคืออาจทำให้เกิดอาการปวดบวมหลังการผ่าตัดมากกว่าและมีความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มขึ้น คนไข้จะต้องดูแลตัวเองหลังผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- การผ่าตัดกระดูกคาง (Genioplasty) แพทย์จะทำการผ่าตัดเสริมคางโดยไม่มีการเสริมซิลิโคนหรือใช้กระดูกจากส่วนอื่นๆ ในร่างกาย แต่จะเป็นการผ่าตัดตกแต่งกระดูกกรามล่างบริเวณคางด้วยการผ่าตัดเปิดแผลด้านในปากและใช้เลื่อยตัดกระดูกบริเวณคางเพื่อปรับแต่งรูปร่างของคางให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ จากนั้นจึงยึดกระดูกให้อยู่กับที่ด้วย Plate และ Screw แล้วจึงลบเหลี่ยมมุมของคางที่เกิดขึ้นหลังการผ่าตัดเพื่อปิดงาน โดยเทคนิคนี้เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาคางหุบเข้าด้านในมาก กระดูกคางสั้นในแนวดิ่งหรือมีปัญหาเรื่องการสบฟันร่วมด้วยและไม่สามารถแก้ไขปัญหารูปทรงคางให้ดีขึ้นได้ด้วยเทคนิคอื่นๆ ข้อดีของการผ่าตัดเสริมคางด้วยเทคนิคนี้คือ ช่วยแก้ปัญหาคางได้อย่างครบครันและสามารถทำร่วมกับการผ่าตัดในบริเวณอื่นๆ ได้ เช่น การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร หรือทำร่วมกับการตัดกระดูกมุมกรามที่เรียกว่า V-line surgery เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้ออกมาสวยงามและสมบูรณ์แบบได้มากที่สุด ยกตัวอย่างการผ่าตัดเสริมคางด้วยเทคนิค Genioplasty เช่น
คนไข้ที่ตำแหน่งคางอยู่ไปทางด้านหลังการแก้ไขก็จะเป็นการเลื่อนกระดูกคางที่ตัดไปด้านหน้า

คนไข้ที่คางสั้นในแนวดิ่งการแก้ไขก็จะเป็นการเลื่อนกระดูกคางลงมาด้านล่าง

คนไข้ที่คางยื่นมาด้านหน้ามากเกินไปการแก้ไขก็จะเป็นการเลื่อนกระดูกคางถอยไปด้านหลัง

คนไข้ที่คางยาวเกินไปในแนวดิ่งการแก้ไขก็จะเป็นการตัดให้คางสั้นลง

คนไข้ที่คางกว้างการแก้ไขก็จะเป็นการตัดและเลื่อนกระดูกคางให้แคบเข้ามา

คนไข้ที่คางเบี้ยวการแก้ไขก็จะเป็นการเลื่อนและปรับแต่งให้ตรงครับ

2.การศัลยกรรมเสริมคางที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด

เป็นวิธีการเสริมคางที่ไม่ต้องการใช้การผ่าตัดแต่จะใช้ฉีดสารเติมเต็มผิวได้แก่ ฟิลเลอร์ (Filler) หรือไขมันของตัวคนไข้เองฉีดเข้าไปที่บริเวณคางเพื่อปรับรูปร่างของคางให้ได้ทรงสวยและเสริมช่วงปลายคางให้ดูอวบอิ่มมากขึ้น การเสริมคางโดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหารูปทรงคางเพียงเล็กน้อยหรือต้องการเสริมความยาวของคางไม่เกิน 1 cm. ข้อดีก็คือไม่ต้องใช้การผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น ใช้เวลาในการรักษาสั้นกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดและสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังการรักษา นอกจากนี้การเสริมคางด้วยการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ทำให้ลักษณะของคางเปลี่ยนไปอย่างถาวรโดยคนไข้สามารถปรับแก้รูปทรงคางได้อยู่เรื่อยๆ ตามความต้องการ
การศัลยกรรมเสริมคาง อันตรายไหม?
การศัลยกรรมเสริมคาง การผ่าตัดคาง เป็นหัตถการขนาดเล็กที่ใช้เวลาในการผ่าตัดรักษาและการพักฟื้นในระยะสั้นจึงอาจพูดได้ว่าการศัลยกรรมเสริมคางไม่ใช่หัตถการที่น่ากลัวหรืออันตรายแต่อย่างใด ทั้งนี้ความเสี่ยงจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้รับผิดชอบตลอดไปจนถึงการดูแลรักษาตัวหลังการผ่าตัดของคนไข้เอง ดังนั้นแล้วก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมคาง การผ่าตัดเสริมคาง การฉีดเสริมคาง คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการรักษา ข้อดี-ข้อควรพิจารณาของแต่ละเทคนิคอย่างละเอียด เลือกเข้ารับศัลยกรรมเสริมคางกับคลินิกที่มีคุณภาพ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับการรักษาได้มาตรฐานระดับสากล มีแพทย์ผู้ชำนาญด้านการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางดูแลตลอดทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การประเมินปัญหารูปทรงคาง การเลือกใช้เทคนิคการรักษาที่เหมาะสมและการติดตามผลหลังการรักษาเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยต่อตัวคนไข้เอง
วิธีดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมเสริมคาง
วิธีดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมเสริมคางด้วยวิธีการผ่าตัด
- หลังการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางแพทย์จะให้คนไข้พักอยู่ภายในคลินิกประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินสภาพร่างกายของคนไข้และตรวจสอบความเรียบร้อยของผลงาน ก่อนที่จะเย็บปิดแผลและทำแผลเป็นขั้นตอนสุดท้าย
- คนไข้จะต้องหมั่นทำความสะอาดช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำเกลือ และต้องแปรงฟันด้วยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
- ในช่วง 2-3 วันแรกให้ประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อลดบวมและบรรเทาอาการเจ็บ จากนั้นจึงสลับไปประคบอุ่นเมื่อครบ 1 สัปดาห์เพื่อช่วยลดรอยฟกช้ำ
- ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดเสริมคางควรนั่งและนอนยกหัวสูงอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดคั่งที่รอยแผลมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าและคางถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัดเสริมคาง ควรหลีกเลี่ยงการวิ่ง การออกกำลังกายหนักๆ การนั่งเท้าคาง นอกจากนี้ควรเลือกทานอาหารเนื้อนิ่มและเคี้ยวง่ายเพื่อช่วยลดแรงที่ต้องใช้สำหรับการบดเคี้ยว
- ควรเข้าพบแพทย์ตามกำหนด ไม่ผิดนัด เพื่อให้แพทย์ได้ติดตามผลการผ่าตัดและตรวจสอบสภาพแผลตามช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือหากพบอาการผิดปกติก่อนกำหนดนัดควรรีบเข้าพบแพทย์เจ้าของเคสทันที
วิธีดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมเสริมคางแบบไม่ต้องผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือสัมผัส บีบหรือนวดบริเวณที่ฉีดเสริมคางเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มเคลื่อนออกจากตำแหน่งที่แพทย์กำหนดไว้
- หลังการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมันเสริมคางอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดหรือการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน รวมถึงงดการนวดหน้า อบซาวน่าและการทำทรีตเมนต์ที่บริเวณใบหน้า
- งดการใช้หัตถการดูแลผิวที่ต้องใช้เลเซอร์ความร้อนยิงสู่ผิวชั้นลึกเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วันหลังฉีดเสริมคาง
สรุป
การศัลยกรรมเสริมคาง เป็นเทคนิคการศัลยกรรมเพื่อช่วยปรับปรุงแก้ไขรูปทรงคางให้สวยงามมากขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางสั้น คางถอย คางตัด คางเบี้ยว คางห้อยย้อยหรือมีคางสองชั้น เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการเสริมคางให้เรียวสวยได้ทรง V-shape และการเสริมคางสำหรับผู้ชายที่เน้นการปรับคางให้เป็นมุมป้าน ช่วงปลายคางไม่แหลมมากเกินไปเพื่อช่วยให้ใบหน้าดูแมนและคมเข้ม ปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมคางมีให้เลือกใช้หลายเทคนิคทั้งเทคนิคการผ่าตัดเสริมซิลิโคนหรือใช้กระดูก การผ่าตัดตกแต่งกระดูกคาง (Genioplasty) ด้วยเทคนิคแผลนอกและแผลใน การเสริมคางแบบที่ไม่ต้องผ่าตัดด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปทรงคางให้สวยงามได้ชั่วคราว ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการรักษาคนไข้ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด เลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือและเข้ารับการรักษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง นอกไปจากนี้คนไข้ควรดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรมเสริมคางตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์หลังการศัลยกรรมเสริมคางเป็นที่น่าพึงพอใจ ไร้ผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์และช่วยรักษาผลลัพธ์คางสวยได้รูปให้อยู่ได้อย่างยาวนาน