7 ปัญหาแทรกซ้อนจากการผ่าตัดดึงหน้า

7 ปัญหาแทรกซ้อนจากการผ่าตัดดึงหน้า ที่พบบ่อยและวิธีหลีกเลี่ยง

เรื่องต้องรู้! ก่อนตัดสินใจผ่าตัดดึงหน้า
คุณทราบถึงความเสี่ยงและวิธีการหลีกเลี่ยงหรือยัง?

1. เลือดออก

ถ้าระหว่างการผ่าตัดทำทุกจุดได้ถูกต้องเลือดจะออกน้อย เช่น
🔎 รู้ชั้นของเนื้อเยื่อ (Plane) เลาะให้ถูก ฉีดยาชาให้เป็น
🔎 รู้กายภาพเส้นเลือด รู้การหยุดเลือดที่ถูกต้อง
🔎 บริเวณที่ผ่าตัดต้องแห้งสนิท ก่อนเย็บปิดแผล และ อาจจะวางสายระบายเลือดไว้ในรายที่ผ่า anterior lift หรือ full face lift รวมทั้งการปิดแผลพันแผลที่ดี

2. การติดเชื้อ

🔎 ต้องมี sterile technique ที่ดี การเตรียมคนไข้ต้องดี สถานที่ต้องสะอาดระดับปลอดเชื้อแบบห้องผ่าตัดจริงๆ เช่น
🔎 มีมาตรฐานตั้งแต่การออกแบบ การสร้าง ของที่ใช้ ผ้าปู เครื่องมือ
🔎 ตัวแพทย์ พยาบาล

ทุกจุดต้องปลอดเชื้อ จึงต้องเลือกที่ได้มาตรฐานสูงพอควร รวมทั้ง แพทย์มักจะให้ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฎิชีวนะ ก่อนและหลังผ่าตัด สำหรับการดูแลหลังผ่าตัดคนไข้ก็ต้องรักษาความสะอาดเช่นกัน

3. อาการชา

🔎 หลังผ่าตัดจะพบอาการชา บริเวณที่มีการเลาะเนื้อเยื่อ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามการหายของแผล เมื่อผิวหนังหายและติดกับเนื้อเยื่อด้านล่างเหมือนปกติ โดยบริเวณหลังหูอาจหายช้าสุดใช้เวลา 2-3 เดือนขึ้นไป
🔎การผ่าตัดก็ต้องหลีกเลื่ยงการทำลายเส้นประสาททส่วนรับความรู้สึกให้มากที่สุด

4. อันตรายต่อเส้นประสาทบนใบหน้า

🔎 แพทย์ต้องเชียวชาญ คุ้นชิน และรู้ตำแหน่ง ของเส้นประสาทแขนงต่างๆ เป็นอย่างดีทั้ง ระยะ และความตื้นลึก
🔎 เส้นประสาทสมองคู่ที่เจ็ด ที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าส่วนต่างๆ ถ้ามีการถูกตัดขาดจะทำให้เกิด กล้ามเนื้อไม่ทำงานตามส่วนต่างๆ ได้ เกิดหน้าเบี้ยว
🔎 อาจมีในบางรายที่เกิดจากความบวมไปกดทับ และมีอาการเพียงอ่อนแรง กว่าอีกข้างในระยะแรก ซึ่งมักหายเป็นปกติ ตามระยะเวลา

5. แผลเป็น

🔎 การเย็บแผลต้องสม่ำเสมอ เรียบไปกับขอบผิวหนัง แพทย์จะต้องรู้จัก การวางแนวแผล การดึง ที่ไม่ตึงจนเกิดแผลดึงรั้ง หรือหน้าผิดรูป
🔎 การดูแลแผลของผู้ป่วยภายหลังให้สะอาดดี แห้ง ไม่แฉะ ไม่เป็นสะเก็ดเกรอะกรังเมื่อมาตัดไหม เพราะจะทำให้ขอบแผลผิวลอกและเกิดแผลเปิดที่ต้องหายด้วย secondary healing หรือผิวชั้นบนต้องฟอร์มตัวเองขึ้นมาใหม่ จะมีโอกาสนูน แดง หรือ อักเสบนานกว่า
🔎 หากเกิดแผลนูนแดง แพทย์อาจแนะนำฉีด steroid ความเข้มข้นต่ำๆ สักเดือนละครั้งไป สองถึงสามเดือนจนแผลหายแดงอักเสบ
🔎 อย่าปล่อยแผลให้นูน เป็นคีลอยด์ รวมทั้งให้ผู้ป่วยทายา แก้แผลเป็นไปเป็นระยะ ค่อนข้างนาน สามถึงหกเดือน

6. รูปหน้าไม่ธรรมชาติหรือไม่สมดุล เช่น ปากฉีกเกินไป หางตาชี้เกินไป

🔎 แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะต้องมีการวางจุดเชื่อม การวางผิวหนังหน้าแต่ละส่วนให้ เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยไป
🔎 แพทย์ต้องรู้ตำแหน่งไรผม จอน ต้องไม่หายหรือโล้นเกินไป รอยผม หลังหูต้องตรงกันไม่เป็นขั้นบันได
🔎 ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรสนิยมในการวางรูปหน้าของแพทย์แต่ละคนด้วย

7. ความบวมช้ำ ขึ้นอยู่กับระหว่างการผ่าตัดเช่นเดียวกับข้อแรก

🔎 การพันแผลให้ดีหลังผ่า โดยให้ผู้ป่วยใส่ผ้ารัดหน้าไว้เพื่อ support ให้ผิวหนังติดในที่ที่ยกขึ้นไปใหม่ได้เร็วขึ้น ก็จะยุบบวมเร็วขึ้นโดยเฉพาะคนที่ทำการยกแบบ full face lift ทั้งหน้าและคอ เป็นต้น

.

การผ่าตัดดึงหน้าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

👨‍⚕️ ปรึกษา ”หมอบี” ศัลยแพทย์ตกแต่ง

📌 สนใจทักแชทหาแอดมินเลย

FB Inbox https://m.me/bestheticsurery

LINE https://lin.ee/obucgCE

.

อ่านบทความ 7 ปัญหาแทรกซ้อนจากการผ่าตัดดึงหน้า และวิธีหลีกเลี่ยง

https://bestheticsurgery.com/7-ปัญหาดึงหน้าที่พบบ่อย/

ครั้งแรกของแพลตฟอร์มที่เผยแพร่ความรู้ด้านศัลยกรรมความงาม อยู่ภายใต้การดูแลโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งและทีมแพทย์เฉพาะทาง