รวมเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจตัดหนังหน้าท้อง ตัดหนังหน้าท้องช่วยเรื่องอะไร? เหมาะกับใคร

รวมเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจตัดหนังหน้าท้อง ตัดหนังหน้าท้องช่วยเรื่องอะไร? เหมาะกับใคร

ปัญหาหน้าท้องใหญ่ หน้าท้องย้วย หย่อนยานดูคล้ายคนมีพุงทั้งๆ ที่น้ำหนักตัวอยู่ในค่ามาตรฐานนับเป็นอีกหนึ่งปัญหารูปร่างที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลายๆ คนได้ไม่น้อยเพราะการมีหน้าท้องขนาดใหญ่ ท้องย้วย หย่อนยานทำให้สัดส่วนไม่เพรียวสวย ทรวดทรงองค์เอวดูไม่เข้าทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคุณผู้หญิงที่อยากมีหน้าท้องที่แบนราบ รอบเอวเล็กเป็นเคิร์ฟสวยได้ทรงตัวเอสช่วยเพิ่มเสน่ห์ชวนมองเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าหรือชุดเข้ารูป สำหรับใครที่มีปัญหาหน้าท้องเหล่านี้อาจสนใจเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้องเพื่อช่วยลดปัญหาหน้าท้องส่วนเกินได้อย่างตรงจุด ปรับหน้าท้องให้ดูเรียวเล็กลงได้อย่างที่ใจต้องการ แต่อย่างไรก็ตามมีรายละเอียดปลีกย่อยและเรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจตัดหนังหน้าท้องเพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลลัพธ์หลังการรักษาที่ตอบโจทย์ความต้องการและปลอดภัยมากที่สุด

การตัดหนังหน้าท้อง คืออะไร

การตัดหนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) คือ การศัลยกรรมตัดแต่งผิวหนังหน้าท้องและไขมันส่วนเกินที่บริเวณหน้าท้องออกในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดปัญหาหน้าท้องย้วย หน้าท้องหย่อนคล้อยขาดความกระชับ ทำให้ช่วงหน้าท้องมีขนาดเล็กลงและกระชับมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง นอกไปจากนี้การตัดหนังหน้าท้องร่วมกับการเย็บเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กลับมาชิดติดกันยังช่วยให้หน้าท้องดูแบนราบ สามารถมองเห็นร่อง 11 ได้อย่างชัดเจน และยังมีส่วนช่วยลดรอยแตกลาย ลดเซลลูไลท์หน้าท้องให้น้อยลงไปด้วยในตัว หลังการตัดหนังหน้าท้องสัดส่วนจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 3-4 เดือน และสามารถคงผลลัพธ์หลังการผ่าตัดได้อย่างถาวรโดยขึ้นอยู่กับการดูแลสัดส่วนรูปร่างของผู้เข้ารับบริการหลังการผ่าตัด

การตัดหนังหน้าท้อง เหมาะกับใครบ้าง

การทำศัลยกรรมตกแต่ง ตัดหนังหน้าท้อง เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องใหญ่ ท้องย้วย หน้าท้องยานโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องส่วนล่างทั้งในกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายซึ่งไม่ใช่ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน
  • ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนยาน ขาดความกระชับหลังจากการลดน้ำหนักตัวลงอย่างรวดเร็วหรือเคยผ่านการดูดไขมันหน้าท้องมาก่อนหน้า 
  • คุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะคุณแม่ที่มีลูกมากกว่าหนึ่งคนที่มีปัญหาหน้าท้องขยายใหญ่มาก หน้าท้องย้วย ขาดความกระชับเนื่องจากผิวหนังบริเวณหน้าท้องไม่สามารถหดคืนตัวหลังการตั้งครรภ์

รวมเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจตัดหนังหน้าท้อง

รวมเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจตัดหนังหน้าท้อง

ผู้ที่ต้องการตัดหนังหน้าท้องควรมีน้ำหนักตัวหรือค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติ 

สิ่งแรกที่ผู้เข้ารับบริการต้องทำความเข้าใจคือ การตัดหนังหน้าท้องเป็นการศัลยกรรมตกแต่งหนังหน้าท้องและไขมันส่วนเกินออกในปริมาณเหมาะสม ไม่สามารถทำเพื่อการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการทำศัลยกรรมที่เหมาะสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวในเกณฑ์ปกติ (Body Mass Index : BMI) หรือเกินเกณฑ์ได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากการผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนาน 3-5 ชั่วโมง แพทย์กรีดเปิดแผลผ่าตัดยาวตลอดความกว้างของเอว มีการเลาะและยกหนังหน้าท้องเป็นแนวกว้าง สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มากๆ จะมีชั้นไขมันหนากว่าเมื่อเทียบกับคนที่มีน้ำหนักตัวในเกณฑ์ปกติเมื่อผ่าตัดหนังหน้าท้องสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมา คือ เลือดไหลมาเลี้ยงตรงบริเวณที่ทำการเลาะผิวหนังได้ไม่เพียงพอจนอาจส่งผลให้รอยแผลแยกตัวจากกันและเกิดภาวะเนื้อตายได้ เราจะสามารถทราบได้อย่างไรว่าน้ำหนักตัวแค่ไหนจึงจะสามารถผ่าตัดหนังหน้าท้องได้? อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยโดย Dr.Ghnnam และคณะเมื่อปี 2016 โดยเปรียบเทียบการผ่าตัดหนังหน้าท้องในคนที่มี BMI มากกว่าและน้อยกว่า 30 พบว่าผู้ที่ผ่าตัดหน้าท้องที่มีค่า BMI มากกว่า 30 มีแนวโน้มของการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดได้มากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มี BMI น้อยกว่า 30 เกือบเท่าตัวทั้งในด้านการเกิดแผลแยกและแผลติดเชื้อ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าคนที่ BMI มากกว่า 30 อาจไม่เหมาะกับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง

หากวางแผนมีลูกในอนาคตยังไม่ควรเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้อง 

เนื่องจากการตัดหนังหน้าท้องไม่ใช่แค่เพียงการตัดหนังหน้าท้องส่วนเกินทิ้งแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่จะมีการเย็บซ่อมกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรงและเข้ามาชิดกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีข้อห้ามหรืออันตรายใดๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์หลังจากการผ่าตัดหนังหน้าท้องก็ตามแต่เมื่อมีการตั้งครรภ์ใหม่จะส่งผลให้ระดับแรงดันภายในช่องท้องเพิ่มขึ้น ผิวหนังหน้าท้องถูกยืดออกทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แพทย์เคยเย็บยึดเอาไว้ให้ชิดกันแยกตัวออกจากกันอีกครั้ง หากต้องการกระชับหน้าท้องให้มีขนาดเล็กลงจึงต้องกลับมาผ่าตัดหน้าท้องใหม่ซึ่งเป็นการเสียเงิน เสียเวลาและต้องเจ็บตัวซ้ำซ้อนหลายครั้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยส่วนใหญ่จึงมักแนะนำให้ผ่าตัดหนังหน้าท้องหลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ตั้งครรภ์อีกในอนาคต แต่ทั้งนี้หากผู้เข้ารับบริการต้องการกระชับหน้าท้องให้เล็กลงโดยที่ไม่มั่นใจว่าจะมีแผนตั้งครรภ์ในอนาคตอีกหรือไม่ก็สามารถผ่าตัดหนังหน้าท้องได้แต่อาจไม่มีการเย็บซ่อมกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านในร่วมด้วย

การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพก่อนผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นปัจจัยสำคัญ 

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการตัดหนังหน้าท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่อาจใช้เวลาในการผ่าตัดนาน 3-5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส) และจำเป็นต้องใช้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ การเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้ารับบริการที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคเบาหวานที่จะต้องควบคุมโรคให้อยู่ในระยะสงบจึงจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้องได้ หรือหากเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็มีความจำเป็นต้องทำการตรวจประเมินร่างกายอย่างละเอียด เช่น การตรวจเลือด การตรวจหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด การเอกซเรย์ (X-ray) การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ฯลฯ ทั้งนี้อาจต้องเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ประจำตัวว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดหนังหน้าท้องได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ 

การตัดหนังหน้าท้องและการดูดไขมันหน้าท้องไม่เหมือนกัน 

หัตถการที่ช่วยจัดการปัญหาหน้าท้องย้วย หย่อนยานซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 เทคนิคหลักๆ ได้แก่ การตัดหนังหน้าท้อง (Abdominoplasty) และการดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) ซึ่งทั้ง 2 หัตถการนี้มีความแตกต่างกัน โดยการผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการศัลยกรรมตัดแต่งผิวหนังหน้าท้องส่วนเกินออกร่วมกับการเย็บเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกลับมาชิดติดกัน ในขณะที่การดูดไขมันหน้าท้องจะมุ่งเน้นไปที่การดูดไขมันส่วนเกิน (Subcutaneous Fat) ที่บริเวณหน้าท้องออกในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อช่วยให้หน้าท้องดูกระชับเล็กลง ดังนั้นการตัดสินใจเลือกว่าควรลดหน้าท้องด้วยเทคนิคไหนจะต้องพิจารณาว่าปัญหาหน้าท้องย้วย หย่อนยานเกิดขึ้นจากผิวหนังหน้าท้องส่วนเกินหรือไขมันส่วนเกินเพื่อเลือกเทคนิคการรักษาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้ทั้ง 2 เทคนิคร่วมกันได้เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษา ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าท้องยื่น หย่อนคล้อย รอบเอวใหญ่ดูไม่กระชับให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจนมากที่สุด 

การตัดหนังหน้าท้องมีหลายเทคนิค

ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาหน้าท้องของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายบุคคล ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคนิคผ่าตัดหนังหน้าท้องออกมาหลายรูปแบบเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาท้องยื่น หน้าท้องหย่อนคล้อยไม่กระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในแต่ละเคส โดยสามารถแบ่งเทคนิคการผ่าตัดหนังหน้าท้องออกเป็น 3 เทคนิคใหญ่ๆ ได้แก่

1. การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Mini Abdominoplasty

เป็นเทคนิคการผ่าตัดหนังหน้าท้องส่วนล่างหรือช่วงใต้สะดือแค่เพียงบางส่วนและไม่มีการปรับย้ายตำแหน่งของสะดือ การผ่าตัดหน้าท้องด้วยเทคนิค Mini Abdominoplasty เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยในระดับเริ่มต้นและมีไขมันส่วนเกินไม่มากนัก ข้อดีของการผ่าตัดหนังหน้าท้องด้วยเทคนิคนี้คือมีรอยแผลขนาดเล็ก ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นานและฟื้นตัวได้ไว

2. การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Full Tummy Tuck

เป็นเทคนิคการผ่าตัดหนังหน้าท้องส่วนล่างและเหนือสะดือออกทั้งหมดโดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเหนือหัวหน่าวยาวตลอดแนวร่วมกับการเจาะย้ายตำแหน่งของสะดือใหม่ การผ่าตัดหนังหน้าท้องด้วยเทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาท้องยื่น หน้าท้องหย่อนคล้อยในระดับปานกลางทั้งผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องยื่นหลังการลดน้ำหนักรวมไปจนถึงคุณแม่หลังคลอดที่ผิวหนังท้องถูกยืดออกจนเสียสภาพ ขาดความกระชับ

3. การผ่าตัดหนังหน้าท้องแบบ Belt Lipectomy

เป็นเทคนิคการผ่าตัดหน้าท้องแบบรอบลำตัวทั้งหมดโดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดแผลยาวรอบลำตัวส่วนล่างทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลังเพื่อตัดแต่งเอาผิวหนังและไขมันส่วนเกินออกโดยรอบลำตัว พร้อมทั้งเย็บเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและย้ายสะดือไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม การผ่าตัดหนังหน้าท้องด้วยเทคนิค Belt Lipectomy เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังและชั้นไขมันส่วนเกินรอบลำตัวซึ่งไม่สามารถจัดการให้ดีขึ้นได้ด้วยเทคนิคอื่นๆ เช่น ผู้ที่เคยมีน้ำหนักตัวเยอะมากและลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว คุณแม่ที่มีปัญหาหน้าท้องย้วยและรอบตัวขยายใหญ่ขึ้นหลังคลอด ฯลฯ ข้อดีของการผ่าตัดหนังหน้าท้องด้วยเทคนิคนี้คือช่วยลดผิวหนังและไขมันส่วนเกินได้ในปริมาณมาก แต่มีข้อควรระวังคือ ทำให้เกิดรอยแผลผ่าตัดขนาดยาวรอบลำตัว ใช้เวลาในการผ่าตัดนานหลายชั่วโมงและพักฟื้นนานกว่าเมื่อเทียบกับเทคนิคอื่นๆ 

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการตัดหนังหน้าท้อง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการตัดหนังหน้าท้อง

สิ่งที่ผู้เข้ารับบริการต้องทำความเข้าใจ คือ การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนานหลายชั่วโมงและมีการดมยาสลบร่วมด้วยอีกทั้งยังทำให้เกิดรอยแผลขนาดใหญ่และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานหลายสัปดาห์ การผ่าตัดหนังหน้าท้องเพื่อลดปัญหาพุงยื่น หน้าท้องหย่อนย้วยอาจทำให้เกิดภาวะข้างเคียงเหล่านี้

  • ผู้เข้ารับบริการบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ มึนงงหรือคลื่นไส้ ซึ่งเกิดจากการใช้ยาสลบก่อนขั้นตอนการผ่าตัด ทั้งนี้อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายเป็นปกติได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการผ่าตัด 
  • มีอาการชาที่รอยแผลผ่าตัดหรือรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ ที่รอยแผล ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติหลังการผ่าตัดใหญ่เนื่องจากมีเนื้อเยื่อหรือเส้นประสาทบางส่วนได้รับความเสียหาย แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติภายในช่วง 6-8 สัปดาห์หลังการผ่าตัดหนังหน้าท้อง
  • รอยแผลผ่าตัดเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ทั้งที่เกิดขึ้นจากความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดหรือการขาดมาตรฐานความสะอาดของสถานพยาบาลและเครื่องมือที่ใช้ รวมไปจนถึงการดูแลหลังการผ่าตัดที่ไม่เหมาะสมของผู้เข้ารับบริการ เช่น การปล่อยให้รอยแผลสัมผัสกับความชื้นหรือเหงื่อโดยตรง การไม่ดูแลทำความสะอาดแผลหรือรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดที่มีส่วนกระตุ้นให้แผลเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ฯลฯ
  • รอยแผลเป็นนูนหลังการผ่าตัดหนังหน้าท้อง โดยเฉพาะในผู้เข้ารับบริการที่มีผิวสีเข้มหรือเคยมีประวัติเป็นแผลคีลอยด์มาก่อนก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแผลเป็นนูนที่รอยแผลผ่าตัดได้ อย่างไรก็ตามสามารถลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นนูนได้ด้วยการหมั่นทำความสะอาดและดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่อแผลผ่าตัดหน้าท้องสมานตัวดีแล้วสามารถลดรอยแผลเป็นแบบนูนด้วยการใช้แผ่นซิลิโคนแปะรอยแผล การทายาหรือฉีดยาลดรอยแผลเป็น การจี้ด้วยความเย็น (Cryosurgery) หรือการเลเซอร์ลดรอยแผลเป็น

สรุป

การผ่าตัดหนังหน้าท้องเป็นการศัลยกรรมตัดแต่งผิวหนังหน้าท้องและไขมันส่วนเกินที่บริเวณหน้าท้องออกในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดปัญหาหน้าท้องย้วย หน้าท้องหย่อนคล้อยขาดความกระชับให้กลับมาดูเต่งตึง เรียบเนียน รอบเอวดูกระชับเล็กลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องใหญ่ หน้าท้องหย่อนคล้อยเพราะมีผิวหนังส่วนเกินบริเวณหน้าท้องมากเกินไปโดยในปัจจุบันมีเทคนิคการตัดหนังหน้าท้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายบุคคลได้อย่างหลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากการตัดหน้าท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการผ่าตัดนานหลายชั่วโมงและพักฟื้นนานหลายสัปดาห์จึงควรเตรียมความพร้อมก่อนการตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้วยการศึกษาข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดหนังหน้าท้องเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ช่วยสร้างผลลัพธ์หลังการรักษาที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการมากที่สุด

ครั้งแรกของแพลตฟอร์มที่เผยแพร่ความรู้ด้านศัลยกรรมความงาม อยู่ภายใต้การดูแลโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งและทีมแพทย์เฉพาะทาง