ขึ้นชื่อว่าเป็น “ความงาม” แล้วนั้นไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพศหญิงหรือเพศชาย ใครๆ ต่างก็ต้องการดูแลรูปร่างหน้าตาของตนเองให้สวยงามและดูดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุหรือคนที่อายุมากที่ต้องเจอกับสารพัดความเสื่อมถอยของสุขภาพร่างกายไม่ว่าจะเป็นปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ลำคอและฝ่ามือ ปัญหาหนังตาตก หางตาตกร่วมกับมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้ลืมตาได้ลำบากจนเริ่มมีปัญหาด้านการมองเห็น หรือในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกิน มีไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น ไขมันต้นแขน หน้าท้อง สะโพกและไขมันที่ต้นขา ทำให้สัดส่วนห้อยย้อยไม่กระชับส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ ข่าวดีก็คือปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างชัดเจนด้วยการทำศัลยกรรมเสริมความงาม แต่ถึงอย่างไรก็ตามตัวผู้สูงอายุเองหรือบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดอาจเกิดข้อสงสัยได้ว่า ผู้สูงอายุสามารถทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามได้หรือไม่? มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด? ข้อควรระวังที่ผู้สูงอายุต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมมีอะไรบ้าง? บทความนี้หมอจะพามาดูรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมในกลุ่มคนที่มีอายุมากกันครับ
ผู้สูงอายุ คนที่มีอายุมากทำศัลยกรรมเสริมความงามได้ไหม?
คำตอบก็คือ “สามารถทำได้ครับ” เพราะในแง่ของการศัลยกรรมตกแต่งความงามแล้วนั้นไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ (ยกเว้นในกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ทำศัลยกรรมเพราะร่างกายยังเจริญเติบโตและพัฒนาได้ไม่เต็มที่) ไม่มีข้อห้ามสำหรับการศัลยกรรมในกลุ่มผู้สูงอายุแต่อย่างใด ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ไม่ว่าใครๆ ต่างก็หันมาให้ความใส่ใจกับการดูแลร่างกายให้แข็งแรงและดูดีอยู่เสมอ ส่งผลให้มีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้วิธีศัลยกรรมเสริมความงามเพื่อช่วยคงความอ่อนเยาว์และปรับปรุงรูปลักษณ์ให้สวยงาม ดูดีอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามใช่ว่าผู้สูงอายุทุกคนจะสามารถทำศัลยกรรมเสริมความงามได้เสมอไปเพราะสิ่งสำคัญที่แพทย์ต้องพิจารณาร่วมกับการวางแผนการรักษาคือ ภาวะสุขภาพ ณ ขณะนั้นและลักษณะของการศัลยกรรมเสริมความงามที่ผู้สูงอายุต้องการทำ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
ภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุที่ควรระวังก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมความงาม
ความพร้อมของสุขภาพร่างกายก่อนเข้ารับการศัลยกรรมนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่ร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่าง-หลังการรักษาจึงต้องตรวจเช็กความพร้อมมากเป็นพิเศษ โดยภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุที่ควรระมัดระวังก่อนตัดสินใจเข้ารับศัลยกรรมเสริมความงาม มีดังนี้
- ภาวะเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและสมองที่ยังไม่ได้รับการรักษา
- ภาวะหัวใจทำงานผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะในระดับรุนแรงหรือมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เสี่ยงต่อการมีลิ่มเลือดอุดตันและส่งผลอันตรายต่อชีวิต
- ผู้สูงอายุที่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติและยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการรักษา ทำให้อวัยวะภายในร่างกายสูญเสียความแข็งแรง และอาจส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการฟื้นฟูหลังการศัลยกรรม
- ผู้สูงอายุที่มีภาวะหอบหืดชนิดรุนแรง หรือเป็นโรคปอดซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายโดยเฉพาะในเคสที่ต้องดมยาสลบก่อนเริ่มขั้นตอนการศัลยกรรม
- ผู้สูงอายุที่ภาวะโรคเลือดต่างๆ เช่น ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด มีภาวะเลือดออกง่ายหยุดยาก (PTT) รวมไปจนถึงผู้ที่ต้องทานยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำทุกวันเพื่อรักษาโรคประจำตัว
- ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ทำให้แผลผ่าตัดฟื้นตัวได้ช้า แผลหายยาก
- ผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตผิดปกติ ทั้งภาวะความดันโลหิตต่ำ ภาวะความดันโลหิตสูงและยังไม่สามารถควบคุมระดับความดันให้อยู่ในระดับปกติที่อาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดในร่างกายและอาจทำให้เกิดภาวะช็อกในระหว่างหรือหลังขั้นตอนการรักษา
โดยผู้สูงอายุควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรมเสริมความงามเพื่อการเตรียมตัวควบคุมอาการของโรคให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมไปจนถึงการหยุดใช้ยารักษาโรคหรืออาหารเสริมบางชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกไปจากนี้ตัวคนไข้ที่เป็นผู้สูงอายุควรเข้าพบศัลยแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาที่ต้องการแก้ไขรวมถึงแจ้งประวัติส่วนตัว โรคประจำตัวต่างๆ ให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดต่อตัวคนไข้เอง
ศัลยกรรมเสริมความงามแบบไหนที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ
การศัลยกรรมเสริมความงามในกลุ่มผู้สูงอายุมักเป็นการตกแต่งแก้ไขความบกพร่องตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยศัลยกรรมเสริมความงามซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้สูงอายุ ได้แก่
- การศัลยกรรมตาบนและตาล่าง เพื่อแก้ไขปัญหาหางตาตก หนังตาตก เปลือกตาหย่อน กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- การผ่าตัดดึงหน้าและคอ (Face Lift & Neck Lift) ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนังให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยปรับให้ผิวหน้าเรียบเนียนเต่งตึง หน้าดูเด็กลง
- การฉีดไขมันหน้าเด็ก (Fat Grafting) ด้วยการใช้เซลล์ไขมันของตัวคนไข้เองเพื่อฉีดเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ร่องแก้มตอบ ขมับตอบ เบ้าตาลึก ตาโหล และเติมเต็มช่วงหน้าผากให้อวบอิ่มมากยิ่งขึ้น
- การผ่าตัดดึงหน้าผากด้วยเอนโดไทน์ (Endotine) ด้วยการฝังวัสดุทางการแพทย์ที่บริเวณแนวไรผมเพื่อช่วยดึงผิวหนังบริเวณหน้าผากให้ยกขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณหน้าผากทั้งยังช่วยจัดการปัญหาหนังตาตก หนังตาหย่อนให้ดีขึ้นได้อย่างตรงจุด
- การผ่าตัดยกกระชับเต้านม (Breast Lift) ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย นมยาน อกห่างและเต้านมผิดรูปทรงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุเพศหญิง ซึ่งสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ด้วยการผ่าตัดเอาหน้าอกส่วนที่ไม่กระชับออกพร้อมย้ายตำแหน่งของปานนมหรือหัวนมให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้เต้านมกระชับเต่งตึง และดูสวยได้รูปมากขึ้น
- การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อยกกระชับหน้าท้องให้เรียบเนียนมากขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมที่บริเวณหน้าท้องมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่ระบบเผาผลาญทำงานได้ช้าจนทำให้เกิดไขมันสะสมได้ง่าย โดยแพทย์จะตัดผิวหนังหน้าท้องและเนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินออกไปพร้อมๆ กับการเย็บกระชับผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อทำให้หน้าท้องแบนราบ ดูสวยงามมากขึ้น
นอกไปจากนี้ผู้สูงอายุยังสามารถทำศัลยกรรมตกแต่งอื่นๆ เช่น การเสริมจมูก การดูดไขมันเฉพาะส่วน การปลูกผม การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) โบท็อกซ์ (Botox) อัลเทอร่า (Ulthera) ฯลฯ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันออกไปได้ไม่ต่างไปจากช่วงคนในช่วงวัยอื่นๆ โดยจะต้องมีการประเมินภาวะสุขภาพอย่างละเอียดและตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่ช่วยสร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนและปลอดภัยมากที่สุดครับ
ผู้สูงอายุ ทำศัลยกรรมเสริมความงามเจ็บมากไหม เป็นอันตรายหรือเปล่า?
ผู้สูงอายุจะทนความเจ็บในระหว่างการรักษาได้ไหม? การผ่าตัดเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้ถูกถามเข้ามาอยู่บ่อยๆ เนื่องจากตัวคนไข้รู้สึกเป็นกังวลเพราะกลัวเจ็บจนทนไม่ไหวหรือกลัวว่าจะเกิดอันตรายในระหว่างขั้นตอนการรักษา ทั้งนี้ต้องอธิบายก่อนครับว่าในปัจจุบันเทคนิควิธีการศัลยกรรมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัยและทำให้เจ็บน้อยลงมาก ในกรณีที่เป็นการผ่าตัดใหญ่จะใช้การดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ซึ่งคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยในระหว่างขั้นตอนการรักษาหรือในเคสที่เป็นการผ่าตัดเล็กหรือไม่ใช้การผ่าตัดก็อาจมีการแปะยาชา ฉีดยาชาเพื่อช่วยระงับความรู้สึกของเส้นประสาท นอกไปจากนี้ยังมีเทคนิคศัลยกรรมรูปแบบใหม่ๆ ทื่ทำให้รอยแผลมีขนาดเล็ก อาการบวมช้ำลดลงและฟื้นตัวได้ไว ดังนั้นแล้วจึงไม่ต้องเป็นกังวลใจเรื่องความรู้สึกเจ็บในระหว่างขั้นตอนการศัลยกรรมแต่อย่างใดครับ
ข้อดีของการเข้ารับการศัลยกรรมเสริมความงามในกลุ่มผู้สูงอายุ
- การศัลยกรรมเสริมความงามช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ดูสวยงามน่ามอง ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมั่นใจในตนเองและมีบุคลิกภาพที่ดีมากขึ้น
- ช่วยแก้ไขความบกพร่องภายในร่างกายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ผิวเหี่ยวย่นหย่อนคล้อย ร่องลึกหรือรอยยุบตามส่วนต่างๆ ของใบหน้าที่เกิดจากการทรุดตัวของกระดูกหรือการฝ่อตัวของชั้นไขมันใต้ผิว เต้านมหย่อนยาน หน้าท้องแตกลาย หน้าท้องย้วยไม่กระชับ ฯลฯ
- การศัลยกรรมเสริมความงามมีส่วนช่วยในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกและมีความสุขมากขึ้น เช่น การผ่าตัดรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การผ่าตัดแก้หนังตาตก ลืมตาได้ไม่สุดเพื่อทำปรับปรุงทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้สูงอายุ ช่วยลดปัญหาขนตาม้วนทิ่มตา
ข้อควรระวังสำหรับการศัลยกรรมเสริมความงามในกลุ่มผู้สูงอายุ
- ผู้สูงอายุจะต้องแจ้งประวัติส่วนตัว ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่ต้องกินและอาหารเสริมต่างๆ ที่ต้องกินเป็นประจำให้แพทย์ทราบโดยละเอียด ไม่พยายามปิดบังข้อมูล
- ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จะต้องรักษาหรือควบคุมอาการให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและควรให้แพทย์ประจำตัวตรวจประเมินอาการของโรคอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม
- ควรมีญาติหรือผู้ติดตามคอยดูแลหลังการศัลยกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่ต้องทำการผ่าตัดที่บริเวณใบหน้า เต้านม หน้าท้อง สะโพก ก้น ขา ฯลฯ ซึ่งจะทำให้เคลื่อนไหวตัวได้ยากและไม่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้ด้วยตัวเอง
- คนไข้จะต้องมีความคาดหวังที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง มีความสมเหตุสมผล โดยศัลยแพทย์ผู้มีความรับผิดชอบอาจไม่สามารถทำตามสิ่งที่คนไข้ต้องการได้ทั้งหมด 100% ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละคนขึ้นอยู่กับอายุ ภาวะสุขภาพร่างกายและการดูแลตัวเองหลังการศัลยกรรม
- การศัลยกรรมตกแต่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องตามส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ดูดีขึ้น ไม่ได้มีประโยชน์เพื่อการรักษาโรค
ผู้สูงอายุ คนที่อายุมาก เลือกศัลยกรรมเสริมความงามอย่างไรจึงจะปลอดภัยมากที่สุด
การศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมก่อนการศัลยกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้สูงอายุที่ต้องการศัลยกรรมเสริมความงามควรพิจารณาปัจจัยสำคัญเหล่านี้ร่วมด้วยเสมอ
- ควรตรวจเช็กสุขภาพร่างกายของตนเองอย่างละเอียดและเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมความงาม
- เลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ คลินิกจะต้องเปิดดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงเอาไว้อย่างชัดเจน ภายในคลินิกจะต้องสะอาด มีแสงสว่างเพียงพอและมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญอย่างครบถ้วน เช่น เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจสอบคลื่นหัวใจ และอุปกรณ์กู้ชีพ เพื่อดูแลคนไข้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงกรณีฉุกเฉิน
- แพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านการตกแต่งและเสริมสร้าง สามารถตรวจสอบข้อมูลของแพทย์ได้บนเว็บไซต์แพทยสภา และควรดูรีวิว เคสตัวอย่างการรักษาของแพทย์จากหลายแหล่งข้อมูลเพื่อช่วยยืนยันถึงประสบการณ์และฝีมือในการศัลยกรรมของแพทย์ท่านนั้นๆ
- ก่อนเริ่มขั้นตอนการศัลยกรรมเสริมความงามแพทย์จะต้องเป็นผู้ประเมินร่างกายของผู้สูงอายุด้วยตนเองอย่างละเอียดพร้อมเปิดโอกาสให้คนไข้ได้สอบถามข้อมูลที่สงสัยและตัดสินใจเลือกวิธีการผ่าตัดรักษาที่เหมาะสมร่วมกัน
- ควรเลือกศัลยกรรมกับคลินิกที่มีระดับราคาเหมาะสม โดยควรศึกษาราคามาตรฐานจากหลายแหล่งข้อมูลและหลีกเลี่ยงคลินิกที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดมากๆ รวมไปจนถึงคลินิกที่ไม่สามารถประเมินราคาเบื้องต้นได้หรือมีอัตราค่าบริการที่สูงเกินไป เพื่อช่วยสร้างผลลัพธ์การศัลยกรรมที่สวยงาม มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าคุ้มราคา
สรุป
การศัลยกรรมเสริมความงามเป็นหัตถการเพื่อช่วยปรับแก้จุดด้อยและเสริมจุดเด่นที่เหมาะสำหรับผู้คนทุกเพศ ทุกวัย (ไม่แนะนำในกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 18 ปี) รวมไปจนถึงผู้สูงอายุ หรือคนที่มีอายุมากก็สามารถทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามได้ไม่ต่างไปจากคนที่อายุยังน้อย โดยปัจจัยสำคัญที่แพทย์จะพิจารณาเป็นสิ่งสำคัญคือ “ภาวะสุขภาพ ณ ขณะนั้น” และลักษณะการศัลยกรรมที่ต้องการทำโดยไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลขอายุแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้สูงอายุจึงควรตรวจเช็กสุขภาพและเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการศัลยกรรม สิ่งสำคัญคือคนไข้จะต้องแจ้งประวัติส่วนตัว ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่ต้องกินเป็นประจำให้ศัลยแพทย์ทราบอย่างละเอียด ไม่พยายามปิดบังข้อมูลเพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม สร้างผลลัพธ์หลังการรักษาที่สวยงามตรงใจและปลอดภัยต่อตัวผู้สูงอายุมากที่สุด
